จะถมดินมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แล้วต้องคำนวนอย่างไร?
เมื่อคุณมีแผนที่จะถมดินเพื่อใช้ประโยชน์ คุณจะต้องคำนึงถึงหลายๆเรื่อง เพื่อให้สามารถส่งงานให้ผู้รับเหมาได้อย่างถูกต้อง เราจะมาเรียนรู้ด้วยกันว่าเราต้องคำนึงถึงเรื่องไหนบ้างและใช้ข้อมูลอะไรในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการถมดิน
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับประเภทดินที่ใช้ถมในปัจจุบันกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร รวมทั้งราคาต่าง ๆ ของดินแต่ละประเภท เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในการระบุราคาให้เหมาะสม
5 ประเภทดินถม รู้คุณสมบัติ และพิจารณาก่อนเลือกใช้
ดินทั่วไป – ดินทั่วไป หรือที่คุ้นชินในชื่อของ ดินดำ ดินถม ดินขุด หรือดินบ่อ จะเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ ซึ่งดินเหล่านี้จะมีราคาไม่สูง นิยมนำมาใช้สำหรับถมที่ดินเพื่อสร้างบ้าน และปรับระดับพื้นที่ ที่สำคัญยังช่วยประหยัดระยะเวลาลงได้ ไม่เหมาะในการนำมาปลูกต้นไม้ เพราะมีความชื้นไม่เพียงพอ
ดินดาน – ดินดาน หรือ ดินซีแลค ลักษณะของดินมีความแห้ง สามารถบดอัดได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ถมที่ดินริมน้ำ ถมทำถนน สร้างบ้านแบบเร่งด่วน หรือ รองรับสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้อย่างแน่นหนา เพราะดินชนิดนี้มีความอัดแน่นสูง ซึ่งราคาจะแตกต่างจากดินทั่วไป เพราะราคาจะคิดตามระยะทางขนส่ง ไม่มีราคาตายตัว
ดินทราย – ดินทราย เป็นดินที่ไม่อุ้มน้ำ มีส่วนประกอบของทรายประมาณ 70% ใช้สำหรับรองพื้นก่อนเทปูนทำสิ่งปลูกสร้าง หากนำมาใช้ต้องบดอัดให้แน่นเป็นพิเศษ เพราะดินทรายเป็นเนื้อดินที่ไม่มีความแน่นหนา ง่ายต่อการถูกกัดกร่อน แต่ข้อดีของการรองพื้นด้วยดินทราย คือ สามารถป้องกันดินไหลไปยังบริเวณข้างเคียงได้ และช่วยไม่ให้สิ่งปลูกสร้างเกิดการทรุดตัว
ดินทรายหยาบ – มีลักษณะเป็นหินแข็ง และเม็ดใหญ่ ใช้ในขั้นตอนปรับสภาพพื้นผิวชั้นบนสุดของสิ่งปลูกสร้าง ดินทรายหยาบเหมาะกับงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง อย่างเช่น อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก โครงสร้างสะพาน หรือ โครงสร้างรากฐานของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ต้องการความแข็งแรง และแน่นหนา โดยวิธีเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับขนาดของทราย เพราะทรายแต่ละชนิดจะมีหน้าที่การใช้งานแตกต่างกันออกไป
ดินลูกรัง – ดินลูกรัง คือ ดินที่พบในชั้นลูกรัง ชั้นกรวด หรือชั้นหินพื้น เนื้อของดินชนิดนี้ มีส่วนผสมของดินทรายปะปนกับดินร่วน เป็นดินผสมหิน ที่มีสีส้ม, แดง ด้วยลักษณะที่เป็นหินมีความแข็ง จึงมีความหนาแน่นสูง สามารถบดอัดได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับทำถนนคอนกรีต สร้างโรงงาน หรือเน้นงานถมสร้างลานจอดรถ ไม่นิยมนำมาสร้างที่พักอาศัย เพราะดินลูกรังกักเก็บความร้อนสูง หากถามในเรื่องของราคาจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่
วิธีคำนวณหาค่าใช้จ่ายการถมดิน 2 รูปแบบ
1. แบบตีเหมาหมายถึง ผู้รับเหมาขอเก็บรายละเอียดกับผู้จ้างถึงความต้องการถมที่ดิน ว่าต้องการความสูงเท่าไหร่ กี่เมตร การบดหรืออัดแน่น หลังจากพูดคุยจนทราบรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว ผู้รับเหมาจะทำการลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อประเมินราคา วัดพื้นที่ต่าง ๆ แล้วทำการแจ้งค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของที่ และเมื่อไหร่ที่ตกลงร่วมกันด้วยความเข้าใจ ผู้รับเหมาจะเริ่มดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งวิธีตีเหมานี้ จะมีข้อดีที่สร้างสะดวกกับตัวเจ้าของที่ดิน เพราะแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงพูดคุยกันก่อนเริ่ม-หลังจากนั้นก็เพียงแค่ตรวจสอบงานเท่านั้นเอง แต่ก็ยังมีข้อเสียในส่วนของการจ้างผู้รับเหมา หากเจอผู้รับเหมาเจ้าที่ไม่ได้เต็มที่กับงาน อาจมีการโก่งราคาขึ้นสูง ดังนั้น ถ้าเลือกใช้วิธีนี้ในการจ้างถมดิน สามารถสอบถามราคาประเมินกับผู้รับเหมาหลาย ๆ เจ้าเพื่อนำมาพิจารณาก่อนได้
2.แบบนับเที่ยว หมายถึง ผู้รับเหมามีการคิดราคาในการถมที่ดินจากการอ้างอิงจำนวนรถ ว่ามีการใช้รถขนดินมาแล้วกี่คัน (นับเป็นคัน) ซึ่งแยกเป็นประเภทของรถด้วยว่า รถชนิดนี้หากขน 1 เที่ยวจะคิดราคาเท่าไหร่ และขนทั้งหมดจำนวนกี่เที่ยว (ส่วนใหญ่จะบดอัดที่ดินให้ด้วย) แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของที่ก็ต้องสอบถามกับทางผู้รับเหมาอีกรอบว่มามีการบดอัดที่ดินให้ด้วยหรือไม่ หรือเพียงแค่ขนส่งดินเพื่อขายให้เรา ซึ่งวิธีถมดินแบบนับเที่ยวนี้ จะมีข้อดี คือ ความเป็นธรรมต่อทั้งฝ่ายเจ้าของที่และผู้รับเหมา อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ไม่มั่นใจว่าต้องการถมดินที่ความสูงเท่าไหร่ ให้ผู้รับเหมาถมต่อไปเรื่อย ๆ พอได้ระดับดินที่พึงพอใจแล้วก็สามารถหยุดการขนส่ง แต่ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ต้องมีผู้ที่ไว้ใจได้คอยนับและเฝ้าจำนวนเที่ยวรถที่ขนดินมา เพราะถ้าไม่นับก็มีโอกาสถูกโกงได้
ดังนั้นเราในฐานะเจ้าของที่ดินก็ควรนำทั้ง 2 รูปแบบมาพิจารณาดูว่าตัวเราเหมาะกับวิธีไหน มีเวลาว่างหรือไม่ แล้วหลังจากนั้น ต้องลองพูดคุยเรื่องวิธีการทำงานและประเมินราคากับผู้รับเหมาหลาย ๆ เจ้าว่าราคาไหนที่เราพึงพอใจ (วิธีการประเมินราคาแบบตีเหมาจะไม่ยุ่งยากเท่าแบบนับเที่ยว)
วิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายในการถมที่ดิน
(1) ทราบขนาดเนื้อที่ดิน กี่ไร่/งาน/ตารางวา
แปลงเนื้อที่ให้เป็นตารางเมตร เพราะจะนำตารางเมตรคำนวณหาดินที่ใช้ในการถม สามารถเทียบบัญญัติไตรยางศ์ เช่น
ที่ดิน 1 ไร่ = 4 งาน = 400 ตร.ว.
1 งาน = 100 ตร.ว.
100 ตร.ว. = 400 ตร.ม.
ดังนั้น หากถมดิน 1 ไร่ = 1,600 ตร.ม.
(2) ความต้องการถมที่ดินสูงเท่าไหร่ (เมตร)
นำขนาดที่ดินตร.ม. คูณด้วยความสูงที่ต้องการถม เพื่อให้ได้จำนวนดินที่ต้องใช้ถม ซึ่งมีหน่วยเป็นคิว (คิว คือ หน่วยวัดปริมาตร 1 คิว = 1 ลบ.ม.) เช่น
ที่ดิน 1 ไร่ = 1,600 ตร.ม. x ความต้องการถมดินสูง 1 ม.
ดังนั้น ปริมาณดินเท่ากับ 1,600 คิว แต่ในการถมดินต้องมีการบดอัดที่ดินด้วย ฉะนั้น จะไม่ได้ใช้ดินเพียง 1,600 คิว เพราะต้องนำมาคำนวณเผื่อการบดอัดที่ทำให้ที่ดินยุบ 20-30% ของคิวทั้งหมด (320 คิว) ได้ปริมาณดินที่ใช้ถมทั้งหมดประมาณ 1,600 + 320 = 1,920 คิว
(3) ค่าใช้จ่ายถมดินโดยประมาณ
สมมุติว่าพื้นที่ละแวกตรงนั้นคิดที่คิวละ 350 บาท
ดังนั้น ค่าถมพร้อมบดอัดโดยประมาณ 1,920 x 350 = 672,000 บาท ซึ่งผู้รับเหมาคิดราคาเป็นคัน รถ 6 ล้อ (3-5คิว) รถ 10 ล้อ (10-15คิว) ส่งผลให้เรตราคาของรถสองประเภทแตกต่างกัน เช่น
ใช้รถ 6 ล้อ ในกรณีที่ขนได้ 3 คิว/เที่ยว ได้แก่ 1,920 หาร 3 = 640 เที่ยว
ใช้รถ 10 ล้อ ในกรณีที่ขนได้ 10 คิว/เที่ยว ได้แก่ 1,920 หาร 10 = 192 เที่ยว
City Plus Capital รับจำนองบ้าน จำนองที่ดิน สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
“ กู้ง่าย ได้เงินไว้ ใส่ใจทุกบริการ ”
มีที่ มีทุน จัดให้ครบ ที่ City Plus Capital
หลักทรัพย์ที่รับจำนอง ที่ดินเปล่า, ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง, ห้องชุด, อาคารเชิงพาณิชย์,
ดอกเบี้ยพิเศษ!! 12% ต่อปี ระยะเวลากู้ 5-10 ปี ผ่อนชำระแบบลดต้นลดดอก (ไม่เก็บดอกเบี้ยล่วงหน้า) ถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย
(ทั้งนี้บริษัทขอสงวนสิทธิ์ดุลยพินิจในการพิจารณาอนุมัติ)
สนใจดูรายละเอียดได้ที่ www.citypluscapital.com
บริการให้คำปรึกษา ฟรี!!
LINE OA : @citypluscapital
โทร : 02-762-3888 / สายด่วน 098 528 9244