City Plus Capital
ติดเครดิตบูโรต้องทำยังไง
>
>
ติดเครดิตบูโรต้องทำยังไง
Banner_ติดเครดิตบูโรต้องทำยังไง พร้อมวิธีแก้สถานะ

ติดเครดิตบูโรต้องทำยังไง

เมื่อพูดถึงเรื่องของเครดิตบูโรแน่นอนว่าหลายคนคงเคยได้ยินสิ่งนี้กันอยู่แล้วแน่นอน เนื่องจากว่ามักจะเกิดขึ้นจากการใช้จ่ายที่มีความผิดพลาด โดยเกิดจากการที่ไม่สามารถชำระหนี้ของบัตรเครดิตได้ตามที่กำหนด นี่จึงเป็นที่มาของการเป็นหนี้ และนอกจากนั้นก็ยังมีในส่วนของอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เมื่อเป็นแบบนี้การชำระหนี้จึงทำได้ยากในที่สุดก็กลายเป็นติดเครดิตบูโรนั่นเอง ทั้งนี้หากติดแบล็กลิตส์ต้องทำอย่างไร มาดูวิธีแก้ไขกัน

เครดิตบูโรคืออะไร

เครดิตบูโรคืออะไร

ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขเครดิตบูโรให้หายไป ก็อยากจะให้มาทำความรู้จักกันก่อนว่าติดบูโรคืออะไร โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อบ้าน สำหรับเครดิตบูโร (Credit Bureau) หรือว่า บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau) ก็คือสถาบันที่จะทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระสินเชื่อทั้งของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งที่นี่ก็ถือว่าเป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลเลย

สำหรับข้อมูลสินเชื่อต่าง ๆ ที่ทางสถาบันเก็บไว้นั้น ก็จะได้มาจากสถาบันการเงินและบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโร โดยจะเรียกข้อมูลที่จัดเก็บไว้ว่าข้อมูลเครดิตนั่นเอง อย่างไรก็ตามบุคคลทั่วไปสามารถที่จะเช็กประวัติเครดิตของตัวเองได้เลยผ่านการยื่นคำขอตรวจสอบเครดิตบูโรผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ทางบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ให้บริการ

เครดิตบูโรติดนานกี่ปี

ติดเครดิตบูโรกี่ปีหาย เชื่อว่าคำถามนี้คงเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยกันมากอย่างแน่นอน เนื่องจากว่าเครดิตเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำธุรกรรมหรือว่าขอสินเชื่อต่าง ๆ เป็นอย่างมาก หากมีประวัติการติดเครดิตบูโรก็แน่นอนว่าโอกาสที่จะขอสินเชื่อผ่านก็ยากมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่ควรจะรู้เอาไว้ว่าจริง ๆ แล้วเครดิตบูโรนั้นจะมีประวัติอยู่ไปยาวนานแค่ไหน

ปกติแล้วประวัติเครดิตบูโรจะแสดงประวัติย้อนหลังเป็นเวลา 3 ปี หากว่ามีการชำระหนี้จนหมดแล้วก็จะทำให้ประวัติสินเชื่อที่มีค่อย ๆ หายไป อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ได้มีการกำหนดเอาไว้ว่าสถาบันทางการเงินจะต้องส่งข้อมูลทางด้านสินเชื่อคงค้างให้กับทางบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด แบบต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปีนับจากวันที่มีการค้างชำระสินเชื่อเกิน 90 วัน 

หลังจากที่ผ่านเวลาครบ 5 ปีแล้วก็ไม่ใช่ว่าข้อมูลสินเชื่อที่มีจะหายไปเลยทันที แต่จะค่อย ๆ หายไปในกรณีที่มีการชำระหนี้จนครบ ทั้งนี้ก็มีไม่น้อยเลยเหมือนกันที่ข้อมูลเครดิตของบางคนจะอยู่ไปแบบยาวนานมาก ๆ เพราะสถาบันทางการเงินทั้งหลายมักจะเก็บข้อมูลเอาไว้นานหลายปี จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสถาบันทางการเงินนั้น ๆ ด้วย ซึ่งก็จะมีทั้ง 10 ปี 20 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นก็ยังมี ถึงอย่างนั้นไม่ว่าข้อมูลเครดิตบูโรจะถูกเก็บไว้นานกี่ปีก็ล้วนส่งผลต่อการยื่นขอสินเชื่อใหม่ได้ทั้งนั้น ทางที่ดีจึงควรชำระหนี้ให้ครบตามกำหนด

เราจะรู้ได้ยังไงว่าติดเครดิตบูโร

เราจะรู้ได้ยังไงว่าติดเครดิตบูโร

ก่อนหน้านี้ก็คงจะได้เข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่าเครดิตบูโรเป็นอย่างไร แล้วติดเครดิตบูโรกี่ปีหาย ต่อมาก็ดูเพิ่มเติมกันหน่อยดีกว่าว่าแล้ววิธีการดูเครดิตบูโรต้องดูอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเราติดเครดิตบูโรแล้ว โดยวิธีการเช็กก็สามารถทำได้เลยด้วยตัวเองในหลายวิธีดังต่อไปนี้

  • ตรวจเครดิตบูโรแบบทราบผลทันทีในกรุงเทพมหาครและปริมณฑล โดยสามารถที่จะติดต่อขอรายละเอียดและเช็กเครดิตได้ที่ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคาร, เครดิตบูโรคาเฟ่, ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร และ Bureau Lab
  • ตรวจเครดิตบูโรแบบผลทางไปรษณีย์ โดยวิธีการเช็กรูปแบบนี้สามารถทำได้ทั้งผู้ที่อยู่ในกรุงเทพมหาครและต่างจังหวัด ซึ่งสามารถเช็กได้จาก ธนาคารกรุงไทย, กรุงศรี,  ธอส., ธ.ก.ส. และแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ทั้งนี้สามารถใช้บริการทุกสาขาทั่วประเทศเลย
  • ตรวจเครดิตบูโรจากบัตรที่ตู้ ATM โดยสามารถใช้บริการได้ที่ตู้ของธนาคารกรุงไทย และไทยพาณิชย์
  • ตรวจเครดิตบูโรจากที่แอปพลิเคชันธนาคาร โดยสามารถเช็กได้จากแอปพลิเคชันของธนาคารกรุงไทย, ออมสิน และ TTB
  • ตรวจเครดิตบูโรจากที่ทำการไปรษณีย์และเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

วิธีแก้สถานะเครดิตบูโร

เชื่อว่าไม่มีใครอยากที่จะติดเครดิตบูโรไปตลอดแน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงควรรู้วิธีการแก้ไขหรือแก้สถานะเครดิตบูโรเอาไว้ด้วย โดยวิธีการที่สามารถช่วยแก้สถานะแบล็กลิตส์ หรือเครดิตบูโรได้นั้น ก็สามารถทำได้จากวิธีการดังต่อไปนี้

  • ตรวจสอบเครดิตบูโรก่อน โดยสิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำเลยก็คือการเช็กเครดิตบูโรของตัวเองว่ามียอดคงเหลืออยู่เท่าไหร่ แล้วจำนวนหนี้ที่มีอยู่ถูกต้องหรือไม่ หากว่าข้อมูลที่แสดงไว้ไม่ตรงกับความจริงก็ให้แจ้งกับทางสถาบันทางการเงินเจ้าของสินเชื่อเพื่อทำการแก้ไขข้อมูลทันที
  • เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ สำหรับโครงการนี้ก็เป็นโครงการที่สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาและช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งหลาย โดยคลินิกแก้หนี้จะทำหน้าที่ในการช่วยเจรจาระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ให้สามารถทำได้นานมากขึ้น
  • คิดและวางแผนการชำระหนี้เสียที่มีอยู่ โดยในขั้นตอนนี้จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีวินัยทางการเงิน และจะต้องมีการติดต่อพูดคุยกับทางสถาบันทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อวางแผนการชำระหนี้ เพื่อเป็นการไม่ให้มีหนี้เสียสะสมจนกลายเป็นความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้อง
  • รวมหนี้มาไว้เป็นก้อนเดียวกัน โดยการรวมหนี้เป็นก้อนเดียวสามารถทำได้จากการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ ที่จะช่วยให้คนที่ติดเครดิตบูโรมีโอกาสที่จะจ่ายหนี้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ผ่อนชำระได้นานขึ้น และสามารถนำเอาหนี้หลาย ๆ ก้อนมาจ่ายอยู่ในก้อนเดียวได้ ก็จะช่วยให้มีโอกาสชำระหนี้ให้หมดได้ไวมากขึ้น

สรุปบทความ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของเกี่ยวกับเครดิตบูโร อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ควรจะทำความเข้าใจเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการจะยื่นกู้ สินเชื่อบ้าน เพราะการยื่นกู้ซื้อบ้านจำเป็นต้องมีการเช็กเครดิตบูโรแบบละเอียดด้วย หากว่าติดแบล็กลิตส์อยู่ก็ทำให้โอกาสที่จะกู้สินเชื่อผ่านนั้นมีน้อยลงนั่นเอง ทางที่ดีควรทำประวัติเครดิตของตัวเองให้ดี เพื่อให้เกิดผลดีต่อการขอสินเชื่อในอนาคตนั่นเอง

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart